หลวงพ่อชาญ ชุติมันโต เจ้าอาวาสวัดเนินสวรรค์ ( บ้านห้วยใหญ่) ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
นับเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ทางภาคใต้ในปัจจุบันที่มีปฎิปทาในวัตรปฎิบัติของสงฆ์ที่เคร่งครัด ในการปฎิบัติศาสนธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระเถระที่ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา แสวงหาความรู้จากตำรับตำราและครูบาอาจารย์ทั้งที่เป็นฆราวาสและพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ตั้งแต่สมัยเยาว์วัยจบจนบวชเป็นภิกษุสงฆ์แล้วก็ยังไม่หยุดที่จะศึกษาในศาสตราหลายแขนง
หลวงพ่อชาญ ท่านเป็นพระนักปฎิบัติธรรมและยังเป็นพระนักพัฒนาสร้างความเจริญในกับสำนักสงฆ์เนินสวรรค์
หลายสิ่งหลายอย่าง โดยปรับเปลี่ยนวัดร้างให้เป็นจุดศูนย์รวมคนในหมู่บ้านและระแวกหมู่บ้านใกล้เคียง ทั้งในด้านศาสนา
ด้านความรู้ ด้านการรักษาโรคแบบแผนไทย
หลวงพ่อชาญ ท่านมีนามเดิมว่า “ ชาญ “ นามสกุล “สุทธิศักดิ์” เกิดในชาติตระกูลที่พออยู่พอกิน โยมพ่อมีอาชีพเป็นช่างตัดผม โยมแม่ ทำอาชีพขายกล้วยแขก มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด หลวงพ่อชาญ เป็นบุตรคนโต บ้านเกิดอยู่ปทุมคงคา แล้วย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ตลิ่งชัน ได้รับการอนุเคราะห์อย่างดีจาก หลวงปู่กลีบ ( พระครูทิวากรคุณ )
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตลิ่งชัน ในขนะนั้น หลวงปู่กลีบให้ความรักความเอ็นดูกับหลวงพ่อชาญเป็นอย่างมากเพราะเห็นเป็นเด็กฉลาด และได้ถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดเนื้อทองฝาบาตร และ การเขียนลบผงอิทธิเจ และผงปัทมัง จึงจัดได้ว่าหลวงพ่อชาญ เป็นศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่กลีบอย่างแท้จริง
เมื่อครั้งเยาว์วัยหลวงพ่อชาญ ศึกษาจบชั้นประถม 4 วัดปทุมคงคา ยามว่างหลวงพ่อชาญได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาไสยศาสตร์เวทวิทยาคม กับญาติผู้ใหญ่และคนเฒ่าคนแก่ในระแวกนั้น เป็นเพราะชอบทางด้านนี้ด้วย แต่ในตอนนั้นหลวงพ่อชาญ
เลือกที่จะศึกษาทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์
หลังจากกลับจากเป็นทหารหลวงพ่อชาญได้อุปสมบท ณ. พันธสีมา วัดตลิ่งชัน โดยมีพระอาจารย์ดี ( ดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสในขนะนั้น ) เป็นอุปัชฌาย์ พระมหาสวง ( ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช่างเหล็ก) เป็นพระกรรมมาจารย์
บวชอยู่ 1 พรรษา ก็ศึกออกมาช่วยโยมบิดาทำงาน ซึ่งขณะนั้นทางบ้านทำงานฉายหนังเร่ หนังกลางแปลง หลวงพ่อชาญได้แต่งงานกับ นางแฉล้ม มีบุตร 2 คน ชายหนึ่งคน เป็นผู้หญิง 1 คน และเมื่อโยมพ่อกับโยมแม่ถึงแก่กรรมลง ทำให้หลวงพ่อชาญ เกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อยากมุ่งสู่ความสงบทางธรรม ประกอบกับบุตรก็โตแล้วภรรยาก็ไม่เดือดร้อนอะไร
จึงหันหน้าเข้าสู่เข้าสู่ร่มกาสาวพัฒน์ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ได้ตั้งจิตอธิฐานว่าจะอยู่ในผ้าเหลืองจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ในการอุปสมบทในครั้งนี้หลวงพ่อชาญอุปสมบท ณ. พันธเสมา วัดเทวสุนทร โดยมีพระมหาแสวง เป็นพระอุปัชฌาย์
และมีพระมหาสนิท เป็นพระกรรมมาจารย์ และปลัดเจียม เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ ชุติมันโต”
จำพรรษาอยู่ไม่นานหลวงพ่อชาญ ก็ออกเดินธุดงค์ไปในดินแดนอีสาน กับคณะธุดงค์กองทัพธรรมของหลวงตาพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมาราม หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน พระที่ร่วมกองทัพธรรมในครั้งนั้นเช่น หลวงปู่ชา สุภัทโท" แห่งวัดหนองป่าพง,หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง , หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก , ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี,หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด,ฯลฯ
ภายหลังหลวงพ่อชาญได้ออกเดินธุดงค์มาทางภาคใต้ไปนครศรีธรรมราช ผ่านชุมพร,สุราษฎร์ธานี,พัทลุง,ตรัง,อ้อมไปยังสงขลา,จนถึงนครศรีธรรมราช และตั้งใจว่าจะกลับไปยังนครศรีอยุธยาเพื่อไปกราบศพหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งเป็นอาจารย์
ระหว่างทางที่ผ่านชุมพรจะเข้าประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อชาญทรงนิมิตในคืนเสาร์ห้า ว่ามีฤๅษีแก่มากบอกว่าอย่าไปต่อเลย
คนที่นี่ต้องการท่านมากตรงนี้เป็นวัดร้างมานาน คนที่นี่อยากให้ท่านบูรณะวัดนี้ ตื่นจากฝันหลวงพ่อชาญ จึงตั้งใจจะพัฒนาวัดนี้ให้เจริญ สามารถเป็นศูนย์ร่วมของชาวบ้าน เพื่อการศาสนาต่อไป
จึงเริ่มสร้างศาลาอเนกประสงค์ขึ้นหนึ่งหลังเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ และสร้างหอเก็บพระไตรในกาลต่อมา จนเป็นสำนักสงฆ์ใช้ชื่อว่า “ สำนักสงฆ์เนินสวรรค์” ( ปัจจุบันกำลังดำเนินการขอให้เป็นวัดเนินสรรค์)
ด้วยเพราะที่หลวงพ่อชาญมีนิสัยใฝ่รู้ทำให้หลวงพ่อชาญได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ อีกหลายเกจิอาจารย์ ยกตัวอย่างเช่น
การทำเบี้ยแก้และปลัดขิก จากหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ , การทำเบี้ยแก้จากหลวงตาเผือด วัดมะกอก ( สายวัดนายโรง) การทำตะกรุดเก้ายอด จากหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม , ทำลูกปะคำ ทำสร้อยคอมงคล จากหลวงพ่ออุตตมะ , เรียนทำผงกรรมฐาน จากหลวงปู่ดู่ วัดสะแก , ทำตะกรุดนะเมตตา ตะกรุดชินบัญชร ตะกรุดโทนใบลาน จากหลวงพ่อมี วัดมารพิชัย , ทำปลัดขลิกจากหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก,ตะกรุดโทนทองแดง จากหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ , ทำผ้ายันต์และตะกรุด จากหลวงพ่อดำ วัดห้วยสัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้สืบทอดวิชายันต์เกาะเพชร สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จากหลวงปู่ช่อ ( ฤๅษีลิงขาว ) วัดฤกษ์บุญมี และหลวงปู่ฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง และหลวงพ่อมี วัดมารพิชัย และอีกหลายอาจารย์ที่เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อชาญ ได้ศึกษาจนถ่องแท้และเชียวชาญ จนสามารถทำวัตถุมงคลได้เข้มขลังยิ่งนัก เช่นตะกรุดฝาบาตรเบี้ยแก้ และตะกรุดยันต์เกาะเพชร ลูกศิษย์ นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์หลายต่อหลายครั้ง
ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ที่ลูกศิษย์บูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญไปแล้วเกิดประสบการณ์มากมาย
1. นางบุญชู จิตสมดี คนจังหวัดนนทบุรีปัจจุบัน อายุ 60 ปี เคยให้หลวงพ่อชาญ ลงน้ำมันนะปัดตลอด ให้และบูชาตะกรุดฝาบาตรของหลวงพ่อ ชาญไปจากวัดเนินสวรรค์ หลังจากกลับไปบ้านได้เดือนกว่าๆ เกิดอุบัติเหตุเฉียดตายที่ป้ายรถเมล์ นางชู พลาดล้มเพราะกำลังจะก้าวขึ้นรถเมล์ ทำให้ตัวเข้าไปอยู่ใต้ล้อรถที่กำลังจะเข้าป้าย รถเมล์ทับร่าง นางชู ไปทั้งล้อหน้า และล้อหลัง คนที่ป้ายรถเมล์ร้องกันลั่น บ้างก็วิ่งกูกันไปเพื่อช่วยเหลือ รถเมล์จอดลงมาดูคิดว่าไม่น่ารอดตายได้ ปาฎิหาริย์เกิดขึ้น นางชู ลุกขึ้นไม่เป็นอะไรเลย คนที่ป้ายรถเมล์บางคนถึงกับถามนางชูเลยว่ามีของดีอะไร นางชูบอกว่ามีตะกรุดฝาบาตร หลวงพ่อชาญ พกติกตัวเพียงดอกเดียว
2. คุณเติม การนคร อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับเบี้ยแก้ ของหลวงพ่อชาญไป ก็เกิดประสบการณ์ไม่น่าเชื่อหลายอย่างเช่น วันหนึ่งคุณเติมขับรถจักรยานยนต์ไปที่ถนนหน้าบ้านมีรถ 6 ล้อ ขนไม้เพื่อนำไปสร้างบ้านวิ่งมา พอถึงทางแยกที่ คุณเติมขี่มา รถขนไม้เลี้ยวอย่างเร็วมาก ประสานงากันตรงทางแยก เสียงดังสนั่น สภาพรถจักรยานยนต์ ของคุณเติม ล้อกลายเป็นเลขแปด สภาพรถกลายเป็นเศษเหล็ก แต่เดชะบุญ คุณเติมแค่ถลอกเป็นแผลเล็กน้อยที่แขน เท่านั้น ในตัวลุงเติมมีแค่เบี้ยแก้ ของหลวงพ่อชาญ ที่อยู่ติดกับพวงกุญแจ เพียงอย่างเดียว คุณเติมเล่าให้ฟังว่า ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นตาเหลือบไปมองที่เบี้บแก้ ของหลวงพ่อ แล้วก็วูบเดียว ตอนนั้นมันงง สับสนไปหมด คิดว่าไม่รอดแน่แล้ว ในใจคิดว่ารอดมาได้ครั้งนี้เพราะเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญแท้แท้
3. ร้อยตำรวจ โท วิโรจน์ เพชรมุณี ป่วยเป็นอัมพาตหลายปี รักษาที่ไหนก็ไม่ดีขึ้น หลวงพ่อชาญบอกว่าให้ไปเอาพานบูชาครู
พร้อมเงิน 59 บาท มาเดียวจะรักษาให้ หลวงพ่อชาญ ใช้น้ำมันที่หุงจากหัวสมุนไพร หัวว่าน ตามตำราที่ได้เล่าเรียนมา
ทาเช้าเย็น ปัจจุบัน ร้อยตำรวจ โท ท่านนี้ เดินได้อย่างคล่องแคล้ว
4. นายบุญลือ ใจหวัง คนจังหวัดชุมพร บ้านอยู่ใกล้วัดเนินสวรรค์ มาขอของดีจากหลวงพ่อชาญ หลวงพ่อชาญให้ตะกรุดโทนยันต์เกาะเพชร เนื้อตะกั่ว ไปหนี่งดอก นายบุญลือ เล่าว่าไปมีเรื่องกับนักเลงต่างถิ่น ถูกรุมฟัน รุมแทง ไม่ต่ำกว่า 5 แผล
นายบุญลือ มาหาหลวงพ่อชาญแล้วบอกว่าของหลวงพ่อเจ๊งจริงจริง เป็นแผลแค่ยางบอน ไม่เข้าเหนียวดีครับหลวงพ่อ
5. นางจิตร ป่าพรหม บ้านอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช บูชาตะกรุดมหาลาภ ของหลวงพ่อชาญ กลับไปบ้านซื้อหวยถูก 3 ตัวตรง นางจิตร เล่าให้ฟังว่าก่อนวันหวยออก ฝันเห็นตะกรุดหมุนติ้ว แล้วไปหยุดที่เลข 312 เช้ารีบไปซื้อหวยถูกตรง 3 ตัว ไปเงินไปหลายแสน
6. นางสมใจ จิตรบางบัว บ้านอยู่อุบลราชธานี แต่มาขายส้มตำที่พัทยา ช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ขายของได้วันไม่ถึง 200 บาท เครียสหาทางออกไม่ได้ พอดีมีเพื่อนมาช่วยไปงานไหว้ครู ของหลวงพ่อชาญ ที่ชุมพร เล่าให้หลวงพ่อชาญฟัง หลวงพ่อชาญ
ให้นางกวักองค์เล็กๆ ไปตั้งที่ร้านก่อนขายก็อาราธนาขอให้ขายของดี ไม่น่าเชื่อพอกลับมาทำอย่างที่หลวงพ่อชาญบอก ตอนนี้ขายของดีมาก เลยเลี่ยมทองแม่นางกวักที่หลวงพ่อชาญให้ ติดคอตลอดเวลา
7. นายสมพล โชตินาโค คนจังหวัดกรุงเทพ เช่าเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญไป ตอนพิธีไหว้ครู นายสมพรเล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนที่เกิดเหตุรัฐบาลขอคืนพื้นที่ที่สีลม ตนเองได้ขายของอยู่แถวนั้นเสียงปืนดังระงบ เป็นระยะระยะ ตนเองจะออกนอกพื้นที่ก็ไม่ได้เพราะทหารปิดล้อมอยู่ จะเข้าไปข้างในก็ไม่ได้เพราะมีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่ หลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่งก็ตัดสินใจวิ่งฝ่าไปด้านทหาร เสียงปืนดังอื้ออึงไปหมด และแล้วเหมือนมีอะไรวิ่งมากระแทกที่หน้าอกหลายจุด เจ็บมาก แต่ก็ฝืนวิ่งไปจนพ้นเขตทหารเข้ามาดูมีรอยกระสุนถูกหน้าอก 4 นัด ไม่เข้าเลยสักนัดเป็นแค่ลอยไหม้ที่เสื้อ 4 จุด ที่เนื้อเป็นเพียงเขียวเป็นจั้ม 4 จั้มเท่านั้น มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้ามาถามว่ามีของดีอะไร นายสมพร บอกไปว่ามีเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญ กับหลวงปู่ทวดของหลวงพ่อชาญที่แจกงานไหว้ครูเท่านั้น
8. นางอำภา ไสดีเลิศ ค้าขายข้าวแกงที่ชลบุรี เนื่องจากมีคนขายของเยอะมากเพราะอยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องแข่งแย่งลูกค้ากัน ในช่วงนี้ขายของไม่ดีเลยเพราะมีแต่พ่อค้า..แม่ค้า คนซื้อน้อยกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยไปปรึกษาเพื่อนเพื่อนแนะนำให้ไปเช่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ สำนักสงฆ์เนินสวรรค์ ชุมพร เลยฝากเพื่อนที่จะไปงานไหว้ครูของหลวงพ่อชาญ บูชาปลัดขิก 2 หัว ของหลวงพ่อชาญมาตั้งในร้าน ไม่น่าเชื่อตอนนี้ขายของดีมาก นางอำกล่าวให้ฟังว่าร้านอื่นขายไม่ได้แต่ร้านเราขายดีเหลือ น่าจะมาจากอานุภาพของปลัดขิก ของหลวงพ่อชาญ และเมื่อสงกานต์ที่ผ่านมาเลยช่วนสามีขับรถไปที่วัดเพื่อให้หลวงพ่อชาญเป่ากระหม่อมให้และเช่าตะกรุดและเบี้ยแก้ของหลวงพ่อมาอีก อย่างละ 2 ชิ้น
9. นายบรรเจิด ทองมา เคยไปบูชาหลวงปู่ทวด ขนาดตั้งหน้ารถ จากหลวงพ่อชาญมาเมื่อต้นปี 49 นายบรรเจิดเล่าว่าวันนั้นต้องไปต่างจังหวัดพาภรรยาและลูกๆไปเชียงใหม่ ระหว่างทางเหนื่อยและง่วงมากเนื่องจากต้องขับคนเดียวจึงเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มาตกใจมากตอนที่มีเสียงเหมือนคนมาตะโกนใกล้หูว่าตื่นโว้ย...ตื่นได้แล้ว รถจะคว่ำแล้ว เดี๋ยวก็ตายกันหมด
พอลืมตาได้ตกใจสุดขีดอีกแค่ 5 เมตร รถกำลังจะพุ่งตกเขา พอหันไปดูภรรยากับลูกยังหลับอยู่เลย นายเจิดรีบโทร.ไปหาหลวงพ่อชาญว่าหลวงพ่อ...มาช่วยผมไว้หรือ หลวงพ่อชาญหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่าด้วยบารมีของหลวงปู่ทวด ยังไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย
10. นางนิด ( ไม่ทราบนามสกุล) อยู่ชลบุรีพาเพื่อนมาอีก 10 คน เช่าบูชาหลวงปู่ทวด ขนาด 2 นิ้ว กลับไปคนละองค์ 2 องค์ พร้อมให้หลวงพ่อชาญเขียนน้ำมันให้ หลังจากวันหวยออก ( 17 พ.ค. 53 ) นางนิดโทร.มาบอกกับลูกศิษย์หลวงพ่อว่า เบอร์รถตู้ที่ไปกราบหลวงพ่อชาญออก เลขทะเบียน 012 คนที่ไปด้วยถูกหวย 3 ตัวตรง แถมถูก 2 ตัวล่างกันอีก เพราะ 2 ตัวล่างก็ออก 12 เหมือนกัน รวยกันไปเป็นแสนเลย
ประสบการณ์ของคนที่เช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ ชุติมันโต สำนักสงฆ์เนินสวรรค์ (บ้านห้วยใหญ่)ปัจจุบันเป็นวัดเนินสวรรค์ จ.ชุมพร ยังมีอีกมากมายหลายอย่างจะนำมาเสนอให้ทราบกับภายหลังนะครับ
นับเป็นหนึ่งในเกจิอาจารย์ทางภาคใต้ในปัจจุบันที่มีปฎิปทาในวัตรปฎิบัติของสงฆ์ที่เคร่งครัด ในการปฎิบัติศาสนธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระเถระที่ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา แสวงหาความรู้จากตำรับตำราและครูบาอาจารย์ทั้งที่เป็นฆราวาสและพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ตั้งแต่สมัยเยาว์วัยจบจนบวชเป็นภิกษุสงฆ์แล้วก็ยังไม่หยุดที่จะศึกษาในศาสตราหลายแขนง
หลวงพ่อชาญ ท่านเป็นพระนักปฎิบัติธรรมและยังเป็นพระนักพัฒนาสร้างความเจริญในกับสำนักสงฆ์เนินสวรรค์
หลายสิ่งหลายอย่าง โดยปรับเปลี่ยนวัดร้างให้เป็นจุดศูนย์รวมคนในหมู่บ้านและระแวกหมู่บ้านใกล้เคียง ทั้งในด้านศาสนา
ด้านความรู้ ด้านการรักษาโรคแบบแผนไทย
หลวงพ่อชาญ ท่านมีนามเดิมว่า “ ชาญ “ นามสกุล “สุทธิศักดิ์” เกิดในชาติตระกูลที่พออยู่พอกิน โยมพ่อมีอาชีพเป็นช่างตัดผม โยมแม่ ทำอาชีพขายกล้วยแขก มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด หลวงพ่อชาญ เป็นบุตรคนโต บ้านเกิดอยู่ปทุมคงคา แล้วย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่ตลิ่งชัน ได้รับการอนุเคราะห์อย่างดีจาก หลวงปู่กลีบ ( พระครูทิวากรคุณ )
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดตลิ่งชัน ในขนะนั้น หลวงปู่กลีบให้ความรักความเอ็นดูกับหลวงพ่อชาญเป็นอย่างมากเพราะเห็นเป็นเด็กฉลาด และได้ถ่ายทอดวิชาทำตะกรุดเนื้อทองฝาบาตร และ การเขียนลบผงอิทธิเจ และผงปัทมัง จึงจัดได้ว่าหลวงพ่อชาญ เป็นศิษย์ก้นกุฎิของหลวงปู่กลีบอย่างแท้จริง
เมื่อครั้งเยาว์วัยหลวงพ่อชาญ ศึกษาจบชั้นประถม 4 วัดปทุมคงคา ยามว่างหลวงพ่อชาญได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาไสยศาสตร์เวทวิทยาคม กับญาติผู้ใหญ่และคนเฒ่าคนแก่ในระแวกนั้น เป็นเพราะชอบทางด้านนี้ด้วย แต่ในตอนนั้นหลวงพ่อชาญ
เลือกที่จะศึกษาทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์
หลังจากกลับจากเป็นทหารหลวงพ่อชาญได้อุปสมบท ณ. พันธสีมา วัดตลิ่งชัน โดยมีพระอาจารย์ดี ( ดำรงตำแหน่ง
เจ้าอาวาสในขนะนั้น ) เป็นอุปัชฌาย์ พระมหาสวง ( ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดช่างเหล็ก) เป็นพระกรรมมาจารย์
บวชอยู่ 1 พรรษา ก็ศึกออกมาช่วยโยมบิดาทำงาน ซึ่งขณะนั้นทางบ้านทำงานฉายหนังเร่ หนังกลางแปลง หลวงพ่อชาญได้แต่งงานกับ นางแฉล้ม มีบุตร 2 คน ชายหนึ่งคน เป็นผู้หญิง 1 คน และเมื่อโยมพ่อกับโยมแม่ถึงแก่กรรมลง ทำให้หลวงพ่อชาญ เกิดความเบื่อหน่ายทางโลก อยากมุ่งสู่ความสงบทางธรรม ประกอบกับบุตรก็โตแล้วภรรยาก็ไม่เดือดร้อนอะไร
จึงหันหน้าเข้าสู่เข้าสู่ร่มกาสาวพัฒน์ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้ได้ตั้งจิตอธิฐานว่าจะอยู่ในผ้าเหลืองจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ในการอุปสมบทในครั้งนี้หลวงพ่อชาญอุปสมบท ณ. พันธเสมา วัดเทวสุนทร โดยมีพระมหาแสวง เป็นพระอุปัชฌาย์
และมีพระมหาสนิท เป็นพระกรรมมาจารย์ และปลัดเจียม เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ ชุติมันโต”
จำพรรษาอยู่ไม่นานหลวงพ่อชาญ ก็ออกเดินธุดงค์ไปในดินแดนอีสาน กับคณะธุดงค์กองทัพธรรมของหลวงตาพวง สุขินทริโย วัดศรีธรรมาราม หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน พระที่ร่วมกองทัพธรรมในครั้งนั้นเช่น หลวงปู่ชา สุภัทโท" แห่งวัดหนองป่าพง,หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง , หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก , ครูบาดวงดี สุภัทโท วัดท่าจำปี,หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด,ฯลฯ
ภายหลังหลวงพ่อชาญได้ออกเดินธุดงค์มาทางภาคใต้ไปนครศรีธรรมราช ผ่านชุมพร,สุราษฎร์ธานี,พัทลุง,ตรัง,อ้อมไปยังสงขลา,จนถึงนครศรีธรรมราช และตั้งใจว่าจะกลับไปยังนครศรีอยุธยาเพื่อไปกราบศพหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ซึ่งเป็นอาจารย์
ระหว่างทางที่ผ่านชุมพรจะเข้าประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อชาญทรงนิมิตในคืนเสาร์ห้า ว่ามีฤๅษีแก่มากบอกว่าอย่าไปต่อเลย
คนที่นี่ต้องการท่านมากตรงนี้เป็นวัดร้างมานาน คนที่นี่อยากให้ท่านบูรณะวัดนี้ ตื่นจากฝันหลวงพ่อชาญ จึงตั้งใจจะพัฒนาวัดนี้ให้เจริญ สามารถเป็นศูนย์ร่วมของชาวบ้าน เพื่อการศาสนาต่อไป
จึงเริ่มสร้างศาลาอเนกประสงค์ขึ้นหนึ่งหลังเพื่อใช้ประกอบศาสนกิจ และสร้างหอเก็บพระไตรในกาลต่อมา จนเป็นสำนักสงฆ์ใช้ชื่อว่า “ สำนักสงฆ์เนินสวรรค์” ( ปัจจุบันกำลังดำเนินการขอให้เป็นวัดเนินสรรค์)
ด้วยเพราะที่หลวงพ่อชาญมีนิสัยใฝ่รู้ทำให้หลวงพ่อชาญได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ อีกหลายเกจิอาจารย์ ยกตัวอย่างเช่น
การทำเบี้ยแก้และปลัดขิก จากหลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ , การทำเบี้ยแก้จากหลวงตาเผือด วัดมะกอก ( สายวัดนายโรง) การทำตะกรุดเก้ายอด จากหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม , ทำลูกปะคำ ทำสร้อยคอมงคล จากหลวงพ่ออุตตมะ , เรียนทำผงกรรมฐาน จากหลวงปู่ดู่ วัดสะแก , ทำตะกรุดนะเมตตา ตะกรุดชินบัญชร ตะกรุดโทนใบลาน จากหลวงพ่อมี วัดมารพิชัย , ทำปลัดขลิกจากหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก,ตะกรุดโทนทองแดง จากหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ , ทำผ้ายันต์และตะกรุด จากหลวงพ่อดำ วัดห้วยสัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้สืบทอดวิชายันต์เกาะเพชร สายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จากหลวงปู่ช่อ ( ฤๅษีลิงขาว ) วัดฤกษ์บุญมี และหลวงปู่ฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง และหลวงพ่อมี วัดมารพิชัย และอีกหลายอาจารย์ที่เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค
หลวงพ่อชาญ ได้ศึกษาจนถ่องแท้และเชียวชาญ จนสามารถทำวัตถุมงคลได้เข้มขลังยิ่งนัก เช่นตะกรุดฝาบาตรเบี้ยแก้ และตะกรุดยันต์เกาะเพชร ลูกศิษย์ นำไปบูชาแล้วเกิดประสบการณ์หลายต่อหลายครั้ง
ขอยกตัวอย่างประสบการณ์ที่ลูกศิษย์บูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญไปแล้วเกิดประสบการณ์มากมาย
1. นางบุญชู จิตสมดี คนจังหวัดนนทบุรีปัจจุบัน อายุ 60 ปี เคยให้หลวงพ่อชาญ ลงน้ำมันนะปัดตลอด ให้และบูชาตะกรุดฝาบาตรของหลวงพ่อ ชาญไปจากวัดเนินสวรรค์ หลังจากกลับไปบ้านได้เดือนกว่าๆ เกิดอุบัติเหตุเฉียดตายที่ป้ายรถเมล์ นางชู พลาดล้มเพราะกำลังจะก้าวขึ้นรถเมล์ ทำให้ตัวเข้าไปอยู่ใต้ล้อรถที่กำลังจะเข้าป้าย รถเมล์ทับร่าง นางชู ไปทั้งล้อหน้า และล้อหลัง คนที่ป้ายรถเมล์ร้องกันลั่น บ้างก็วิ่งกูกันไปเพื่อช่วยเหลือ รถเมล์จอดลงมาดูคิดว่าไม่น่ารอดตายได้ ปาฎิหาริย์เกิดขึ้น นางชู ลุกขึ้นไม่เป็นอะไรเลย คนที่ป้ายรถเมล์บางคนถึงกับถามนางชูเลยว่ามีของดีอะไร นางชูบอกว่ามีตะกรุดฝาบาตร หลวงพ่อชาญ พกติกตัวเพียงดอกเดียว
2. คุณเติม การนคร อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับเบี้ยแก้ ของหลวงพ่อชาญไป ก็เกิดประสบการณ์ไม่น่าเชื่อหลายอย่างเช่น วันหนึ่งคุณเติมขับรถจักรยานยนต์ไปที่ถนนหน้าบ้านมีรถ 6 ล้อ ขนไม้เพื่อนำไปสร้างบ้านวิ่งมา พอถึงทางแยกที่ คุณเติมขี่มา รถขนไม้เลี้ยวอย่างเร็วมาก ประสานงากันตรงทางแยก เสียงดังสนั่น สภาพรถจักรยานยนต์ ของคุณเติม ล้อกลายเป็นเลขแปด สภาพรถกลายเป็นเศษเหล็ก แต่เดชะบุญ คุณเติมแค่ถลอกเป็นแผลเล็กน้อยที่แขน เท่านั้น ในตัวลุงเติมมีแค่เบี้ยแก้ ของหลวงพ่อชาญ ที่อยู่ติดกับพวงกุญแจ เพียงอย่างเดียว คุณเติมเล่าให้ฟังว่า ชั่วเสี้ยววินาทีนั้นตาเหลือบไปมองที่เบี้บแก้ ของหลวงพ่อ แล้วก็วูบเดียว ตอนนั้นมันงง สับสนไปหมด คิดว่าไม่รอดแน่แล้ว ในใจคิดว่ารอดมาได้ครั้งนี้เพราะเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญแท้แท้
3. ร้อยตำรวจ โท วิโรจน์ เพชรมุณี ป่วยเป็นอัมพาตหลายปี รักษาที่ไหนก็ไม่ดีขึ้น หลวงพ่อชาญบอกว่าให้ไปเอาพานบูชาครู
พร้อมเงิน 59 บาท มาเดียวจะรักษาให้ หลวงพ่อชาญ ใช้น้ำมันที่หุงจากหัวสมุนไพร หัวว่าน ตามตำราที่ได้เล่าเรียนมา
ทาเช้าเย็น ปัจจุบัน ร้อยตำรวจ โท ท่านนี้ เดินได้อย่างคล่องแคล้ว
4. นายบุญลือ ใจหวัง คนจังหวัดชุมพร บ้านอยู่ใกล้วัดเนินสวรรค์ มาขอของดีจากหลวงพ่อชาญ หลวงพ่อชาญให้ตะกรุดโทนยันต์เกาะเพชร เนื้อตะกั่ว ไปหนี่งดอก นายบุญลือ เล่าว่าไปมีเรื่องกับนักเลงต่างถิ่น ถูกรุมฟัน รุมแทง ไม่ต่ำกว่า 5 แผล
นายบุญลือ มาหาหลวงพ่อชาญแล้วบอกว่าของหลวงพ่อเจ๊งจริงจริง เป็นแผลแค่ยางบอน ไม่เข้าเหนียวดีครับหลวงพ่อ
5. นางจิตร ป่าพรหม บ้านอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช บูชาตะกรุดมหาลาภ ของหลวงพ่อชาญ กลับไปบ้านซื้อหวยถูก 3 ตัวตรง นางจิตร เล่าให้ฟังว่าก่อนวันหวยออก ฝันเห็นตะกรุดหมุนติ้ว แล้วไปหยุดที่เลข 312 เช้ารีบไปซื้อหวยถูกตรง 3 ตัว ไปเงินไปหลายแสน
6. นางสมใจ จิตรบางบัว บ้านอยู่อุบลราชธานี แต่มาขายส้มตำที่พัทยา ช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ขายของได้วันไม่ถึง 200 บาท เครียสหาทางออกไม่ได้ พอดีมีเพื่อนมาช่วยไปงานไหว้ครู ของหลวงพ่อชาญ ที่ชุมพร เล่าให้หลวงพ่อชาญฟัง หลวงพ่อชาญ
ให้นางกวักองค์เล็กๆ ไปตั้งที่ร้านก่อนขายก็อาราธนาขอให้ขายของดี ไม่น่าเชื่อพอกลับมาทำอย่างที่หลวงพ่อชาญบอก ตอนนี้ขายของดีมาก เลยเลี่ยมทองแม่นางกวักที่หลวงพ่อชาญให้ ติดคอตลอดเวลา
7. นายสมพล โชตินาโค คนจังหวัดกรุงเทพ เช่าเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญไป ตอนพิธีไหว้ครู นายสมพรเล่าให้ฟังว่าเมื่อตอนที่เกิดเหตุรัฐบาลขอคืนพื้นที่ที่สีลม ตนเองได้ขายของอยู่แถวนั้นเสียงปืนดังระงบ เป็นระยะระยะ ตนเองจะออกนอกพื้นที่ก็ไม่ได้เพราะทหารปิดล้อมอยู่ จะเข้าไปข้างในก็ไม่ได้เพราะมีกลุ่มคนเสื้อแดงชุมนุมอยู่ หลังจากลังเลใจอยู่พักหนึ่งก็ตัดสินใจวิ่งฝ่าไปด้านทหาร เสียงปืนดังอื้ออึงไปหมด และแล้วเหมือนมีอะไรวิ่งมากระแทกที่หน้าอกหลายจุด เจ็บมาก แต่ก็ฝืนวิ่งไปจนพ้นเขตทหารเข้ามาดูมีรอยกระสุนถูกหน้าอก 4 นัด ไม่เข้าเลยสักนัดเป็นแค่ลอยไหม้ที่เสื้อ 4 จุด ที่เนื้อเป็นเพียงเขียวเป็นจั้ม 4 จั้มเท่านั้น มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้ามาถามว่ามีของดีอะไร นายสมพร บอกไปว่ามีเบี้ยแก้ของหลวงพ่อชาญ กับหลวงปู่ทวดของหลวงพ่อชาญที่แจกงานไหว้ครูเท่านั้น
8. นางอำภา ไสดีเลิศ ค้าขายข้าวแกงที่ชลบุรี เนื่องจากมีคนขายของเยอะมากเพราะอยู่ใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมจึงต้องแข่งแย่งลูกค้ากัน ในช่วงนี้ขายของไม่ดีเลยเพราะมีแต่พ่อค้า..แม่ค้า คนซื้อน้อยกว่า ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยไปปรึกษาเพื่อนเพื่อนแนะนำให้ไปเช่าวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ สำนักสงฆ์เนินสวรรค์ ชุมพร เลยฝากเพื่อนที่จะไปงานไหว้ครูของหลวงพ่อชาญ บูชาปลัดขิก 2 หัว ของหลวงพ่อชาญมาตั้งในร้าน ไม่น่าเชื่อตอนนี้ขายของดีมาก นางอำกล่าวให้ฟังว่าร้านอื่นขายไม่ได้แต่ร้านเราขายดีเหลือ น่าจะมาจากอานุภาพของปลัดขิก ของหลวงพ่อชาญ และเมื่อสงกานต์ที่ผ่านมาเลยช่วนสามีขับรถไปที่วัดเพื่อให้หลวงพ่อชาญเป่ากระหม่อมให้และเช่าตะกรุดและเบี้ยแก้ของหลวงพ่อมาอีก อย่างละ 2 ชิ้น
9. นายบรรเจิด ทองมา เคยไปบูชาหลวงปู่ทวด ขนาดตั้งหน้ารถ จากหลวงพ่อชาญมาเมื่อต้นปี 49 นายบรรเจิดเล่าว่าวันนั้นต้องไปต่างจังหวัดพาภรรยาและลูกๆไปเชียงใหม่ ระหว่างทางเหนื่อยและง่วงมากเนื่องจากต้องขับคนเดียวจึงเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ มาตกใจมากตอนที่มีเสียงเหมือนคนมาตะโกนใกล้หูว่าตื่นโว้ย...ตื่นได้แล้ว รถจะคว่ำแล้ว เดี๋ยวก็ตายกันหมด
พอลืมตาได้ตกใจสุดขีดอีกแค่ 5 เมตร รถกำลังจะพุ่งตกเขา พอหันไปดูภรรยากับลูกยังหลับอยู่เลย นายเจิดรีบโทร.ไปหาหลวงพ่อชาญว่าหลวงพ่อ...มาช่วยผมไว้หรือ หลวงพ่อชาญหัวเราะเบาๆ แล้วตอบว่าด้วยบารมีของหลวงปู่ทวด ยังไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย
10. นางนิด ( ไม่ทราบนามสกุล) อยู่ชลบุรีพาเพื่อนมาอีก 10 คน เช่าบูชาหลวงปู่ทวด ขนาด 2 นิ้ว กลับไปคนละองค์ 2 องค์ พร้อมให้หลวงพ่อชาญเขียนน้ำมันให้ หลังจากวันหวยออก ( 17 พ.ค. 53 ) นางนิดโทร.มาบอกกับลูกศิษย์หลวงพ่อว่า เบอร์รถตู้ที่ไปกราบหลวงพ่อชาญออก เลขทะเบียน 012 คนที่ไปด้วยถูกหวย 3 ตัวตรง แถมถูก 2 ตัวล่างกันอีก เพราะ 2 ตัวล่างก็ออก 12 เหมือนกัน รวยกันไปเป็นแสนเลย
ประสบการณ์ของคนที่เช่าบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่อชาญ ชุติมันโต สำนักสงฆ์เนินสวรรค์ (บ้านห้วยใหญ่)ปัจจุบันเป็นวัดเนินสวรรค์ จ.ชุมพร ยังมีอีกมากมายหลายอย่างจะนำมาเสนอให้ทราบกับภายหลังนะครับ